อะไรคือการเป็นรอง?
หลังจากที่แม่พูดประโยคนั้น ฉันก็ไม่พูดอะไรต่อ
เพราะ….
แม่พูดต่อไง
……
!
” พ่อเค้ามีลูกสาวอีกคนหนึ่ง ชื่อพี่อิ๋ม ”
ในใจเริ่มคิดละ ฮู อีส พี่ อิ๋ม นางคือครายยย โอ้ววว ม่ายยย
ทำไมอยู่ๆชั้นมีพี่สาวเหรอ แม่แบ่งกับพ่อเลี้ยงอ่อ?
อีหยังหว่า เล่าต่อแม่เล่าต่อ (นี้พูดในใจนะ)
” ทางบ้านนู้น เค้าก็มีแม่ใหญ่อีกคน แล้วก็มีพี่อิ๋ม ”
อ่อ สรุป พ่อมีอีกบ้านหนึ่ง แล้วลูกสาว โตกว่าฉันด้วย อุแหม่
อะไรว่ะ พ่อมีเมียน้อย !!
ตอนนั้นคือ ไม่คิดอะไรนอกจาก แม่เล่าต่อดี๊
แต่มื้อเช้าของวันปีใหม่วันนั้นจะจบลง โดยการที่ชั้นต้องไปล้างจาน !
ระหว่างที่ล้างจาน ก็นึกอะไร มึนๆไป
ตอนอายุ สิบห้า ละฉันต้องเคย อายุ สิบสาม (ใช่ไง-_-)
อย่างที่บอกเคยอยู่ โรงเรียนประจำ แน่นอน ต้องนอนหอหญิง
ต้องมีเรื่อง ชะนีทะเลาะกันเป็นธรรมดา หูแว่ว มีคนด่าตามหลังว่า
อีลูกเมียน้อย !!
(คือพ่อแม่เค้าคงเคยทำงานที่เดียวกับพ่อตอนนั้นอ่ะ คงรู้อะไรมาแต่ฉัน….)
โอเค กูรู้ละ พ่อกูไม่ได้มีเมียน้อยหรอก แต่แม่กูเป็นเมียน้อยพ่อ
มาคุ มาคุ อื้ม ครึ้ม
….
แต่ด้วยการเป็นอิเด็ก ไม่คิดอะไร พูดง่ายๆ โลกสวยว่างั้น
ก็ใช้ชีวิตกับแม่เป็นปกติ หนุกหนานๆ
คือยังไม่คิดจะถามอะไรแม่ต่อ เข้าใจอารม ป๊ะ
… . . ..
ตลอดเวลาที่อยู่กับแม่มาก็มีถามบ้าง เช่น
พ่อชื่อเล่นไรอ่ะ? ( มีใครไม่รู้ชื่อเล่นพ่อมั่งมะ? )
พ่อมีพี่น้องกี่คนอ่ะ? เป็นต้น
คือจำไม่ได้ละว่าถามอะไรไปบ้าง และมีคำถามอะไรบ้าง ที่ฉันควรจะถาม
เอ๊ะ !หรือไม่รู้จะดีกว่า
แล้วฉันก็เป็นสาว ต้องเข้ามหา’ลัย
ฉันได้ไปเรียนต่อที่ กรุงเทพ
วันแรกก็มีเจ้าหน้าที่มาตรวจรายชื่อ นักศึกษา ว่ามาครบกันมั้ย
“อ้าวหนูนามสกุลเหมือน ด๊อกเตอร์ ตระการ เลย รู้จัก ด๊อกเตอร์ ตระการ มั้ยจ๊ะ?”
“ไม่รู้จักค่ะ” หน้ามึน เกิดมาเพิ่งเคยเจอคนนามสกุลเหมือนกันที่ไม่ใช่พ่อ
เพราะที่บ้าน แม่ก็นามสกุล ตา พี่ก็ใช้นามสกุลของพ่อพี่ ฉันก็ใช้นามสกุลของพ่อฉัน
สรุปที่บ้านไม่มีใครนามสกุลเหมือนกันเลยยยยย
แล้วเจ้าหน้าที่ก็ไม่พูดไรต่ออ่ะ นางก็ยิ้มแล้วสะบัดบ๊อบ
แต่เป็นฉันเป็นคนขี้เม้าไง ก็ไปเล่าให้แม่ฟัง ว่า
มีคนนามสกุลเหมือนฉันด้วย เป็นด๊อกเตอร์ มีคนมาถามว่ารู้จักมั้ย
ที่นี้ แม่ก็ขี้เม้าเหมือนกันไง ไปเล่าให้พ่อฟัง
พ่อเลยนึกขึ้นได้ มาว่า เออออออออออออ . . ..
มีหลานชายเค้าเรียนจบด๊อกเตอร์จากเมืองนอกมาทำงานใช้ทุนที่มหาลัยนี้
บร๊ะ ! พรหมลิขิต จริงๆ ด๊อกเตอร์ลูกพี่ลูกน้องของฉันคนนี้สอนอยู่ คณะที่ฉันเรียน !!!
ได้สอนฉันด้วย โอ้วม่ายยยยยย บังเอิญไปป่ะ
เชื่อเหอะค่ะ ว่าโลก กลม พรหมลิขิต ได้จริง. . .
อยู่มาวันหนึ่ง
พ่อต้องมาทำธุระที่บ้านของฉัน
( คือเค้ามีลูกมีเมียที่กรุงเทพไง ที่บอก เค้าก็ต้องอยู่กับบ้านใหญ่ทางนู้นเค้า )
เพราะสมัยที่พ่อยังทำงานที่บ้านฉันเค้าก็ลงทุนธุรกิจไว้ที่นี้เหมือนกัน
ฉันกับแม่ขับรถไปรับพ่อที่สนามบินเพื่อส่งพ่อไปทำธุระ
ตอนนั้นชั้นอายุ เรียนมหาลัยแหละ จะยี่สิบ หรือยี่สิบละมั่ง
ระหว่างทางกลับจากสนามบิน ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“กะระรุงรุง กะระรุง รุ่ง รุ้ง”เสียงโทรศัพท์ดัง
ฮัลโหล พ่อพูด เสียงในสายพูดกลับมาว่า
” พ่อถึงหรือยังค่ะ ” เสียงในโทรศัพท์ถาม
” ถึงละจ๊ะ ” พ่อพูดกลับไป
” แล้วพ่อให้ใครมารับคะ? ” เสียงในโทรศัพท์ พูดกลับมา
” อ้อเพื่อนจ๊ะ ”
เท่านั้นแหละ รู้เลยยยยยยยยยยยยยย
………
…..
..
คุณคิดว่าไรละ หนึ่งแน่นอน นั้นลูกของพ่อแน่ๆและ
สอง เค้าไม่รู้ว่าฉันกับเป็นแม่
ได้กลายเป็นญาติห่างๆของเค้าไปแล้ววว. . .. .
แต่!!
อย่าลืมสิ
ความลับ ไม่มีในโลกกกกก นะ 🙂
#2 จบเท่านี้ก่อนนะฮะ มี #3 ต่อแน่ๆ :3