0

บันทึกของอั้มศรี

บันทึกของอั้มศรี ฉบับที่ 1

ชีวิตที่เกิดมา เคยมีคนบอกว่าเราบ้า ไม่รู้กี่สิบคน คนเหล่านั้นมักหัวเราะใส่เราเสมอ เอาเหอะ เราชอบนะ ชอบเสียงหัวเราะหน่ะ

ย้อนไปเมื่อก่อนตอนสมัยอยู่โรงเรียนประถม
อิอั้ม หรือตอนนั้นจะสะดวกเรียกว่า “ดวง” ก็ตามแต่
เป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อนคบ ชั้นอนุบาล ต้องไปนั่งมุมห้อง
นั่งเล่นของเล่นคนเดียว
และมีเพื่อนผู้ชาย ใจนักเลงแต่เด็ก
ขว้างดินน้ำมันมาทางเรา

แต่!!  ไม่โดนเลยเดินลุกหนีเพราะไม่อยากมีปัญหา
ปรากฎว่า ถุงเท้าเรา เหยียบดินน้ำมันที่มันปามา
แม่ง!สีเขียว จำสีได้ ไอ้นั้นหัวเราะเราจำหน้ามันและชื่อได้เป็นอย่างดี

กับอีกภาพความทรงจำหนึ่ง
เพื่อนเล่นเป็น หมู หมา หรืออะไรสักอย่าง
คลานไล่กัน อิดวงหน้าเด๋อคนเดิม
อยากเล่นด้วย เลยลงไปคลานตาม
ผลที่ออกมาคือ อิพวกนั้นคลานหนีหมด !

อยู่โรงเรียนนั้นไม่นานจากนั้นเราก็ขอแม่ย้ายโรงเรียน
ไม่ใช่เพราะไม่มีเพื่อนคบหรอกนะคะ
ที่นอนที่โรงเรียน ยัดเก็บใส่ถุงนอนยาก -..-

นี้คือภาพความทรงจำสมัยอนุบาล

พอขึ้นชั้นประถม มาจำได้ตอน ป.4 มีเพื่อนนางหนึ่งเป็นผู้หญิงชื่อบุ๋ม
เท่าที่เห็นสภาพตั้งแต่อนุบาลมาก็โดนแกล้งตลอด จนมาปอ4 นางบุ๋มเนี่ย
จะมาแกล้งอะไรสักอย่าง ทำให้เรารำคาญมาก โกรธด้วย
และภาพที่ติดหัวมาจนถึงทุกวันนี้คือ เรายกมือขึ้น กำมือ จะชกนางจริงจัง
แต่แล้วนางก็พูดว่า “แหม เดียวนี้คิดสู้แล้วเหรอ ?” ด้วยหน้าตาที่น่าหมั่นไส้ที่สุด นั้นเป็นภาพที่จำติดมาจนถึงวันนี้

พอ ป.5 – ป.6 หลังจากที่กล้าสู้คนแล้ว
ก็มีแก๊งค์ ในแก๊งค์อ่ะมีอยู่ 6 คน
แก๊งค์เราชื่อว่า แก๊งค์”โอป้า”
ตอนนั้น ย้อนกลับไป 10 กว่าปี ไม่มีใครติ่งเกาหลีทั้งนั้น
ศิลปินเกาหลีก็ยังไม่บูม ไม่ดัง ไม่อะไรทั้งนั้น
คนคิดชื่อ เราเองแหละ คิดได้ไง ไม่รู้
ให้ย้อนกลับไปอ่านเฟรนชิฟ ก็คงไม่ได้เขียนไว้
แล้วก็จะมีฉายาต่อด้วย เช่น โอป้าแก๊ด โอป้ากาเทย โอป้าจุ๊บ
และอีกหลายๆฉายา คือเราลืมฉายาตัวเองอ่ะ อยากให้เพื่อนๆ ในกลุ่มวันนั้นมาอ่านจริงๆ 555
สาบานว่าตอนนั้นไม่รู้จักว่า โอป้า คืออะไร แปลว่าอะไร คิดมาได้ไง ไม่รู้จริงๆ

กิจกรรมยามว่าเราคือ กระโดดยาง บอกเลยว่า เทพทั้งกลุ่ม
กระโดดแม่หัว แม่ข้อ สบายมาก
เราสนิทมากอ่ะกลุ่มนี้ ช่วงนั้น นิสัยเราเป็นคนขี้เล่นมากกก
ตอนนี้ก็เป็น คือเพื่อนทำการบ้านเลข เครียดมาก
ก็บอกมันว่าเครียดทำไม คนเราทำงานเครียดไม่เห็นต้องเครียดตามเลย
คือตรรกะอะไรของเราก็ไม่รู้บ้ามาก ก็มันคิดไม่ออกอ่ะ 555

แต่ก็มาถึงทางแยกเพื่อนในกลุ่ม (ถ้าจำไม่ผิดในกลุ่มมี 6 คน)
เราเป็นคนเดียวที่ไม่ได้เรียนที่เดียวกับ 5 คนนั้น
มันเศร้านะแต่เราเป็นคนไม่กลัวการเริ่มต้นใหม่เลย

แต่ทุกคน ญาติๆเรา เห็นเป็นเด็กขี้แย ติดแม่จน…

ม.1เข้า โรงเรียนประจำ !
คุณพระ… งงละสิว่าชะนีน้อยขี้แง ไปอยู่โรงเรียนประจำได้ไง
เพื่อนรุ่นเดียวกันร้องอยากกลับบ้าน ไม่ยอมให้แม่กลับจนเย็น
แต่อิดวงซึ่งตอน มอ1ได้ฉายาใหม่ “เด๋อ” รู้สึกไม่กลัวเลยที่ได้มาอยู่ประจำ
ตอนนอนคืนแรก ทุกคนจะมีพี่รหัสมาเทคแคร์ช่วยจัดตู้ เตียง แต่เรา “ไหนว่ะพี่รหัส?” สุดท้ายนางก็มาหา หลังจากนั้น2-3วันได้ (นานไปอีก-_-)
แต่ก็หายโกรธเพราะคืนนั้นนางหอมแก้ม นางชื่อเบลล์ น่ารักมาก แต่ปัจจุบัน นางเป็นทอมมั้ง หึ!

ธรรมดาเรียนอย่างเดียวไม่ได้เราต้องมีชมรม เฉิด (แม่ชั้นเอง) นางบังคับให้เข้า ชมรมเทควันโด
เพื่อที่กะให้สู้คนเป็นกับเค้าบ้างอะไรบ้าง เหอะ ! จะได้สักกี่น้ำ เมื่อก่อนรับบอล ไม่ได้ โดนใส่หน้า ร้องไห้เป็นหมา งอนแม่เป็นวัน สรุป…

น้องเด๋อเป็นคนแรกนะฮะ ที่เรียนถึงสายแดง (ก่อนสายดำ)

หึๆ กลายเป็นคนบ้ากิจกรรม บ้าพลัง ทั้งดนตรี เข้าวงออเครตร้า สีซอ(ไวโอลีน) เป็นประชาสัมพันธ์

แถมยังเคยประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง เราร้องเพลงคุณลำไย
ซึ่งตอนนั้นเราอยู่ ม.1 ไม่ค่อยมีเด็กเข้าใหม่ที่ไหนกล้าร้องเพลงคุณลำไย แล้วเต้นรั่วขนาดนั้นหรอก
สายตาหมั่นไส้จากรุ่นพี่ผู้หญิงมากโข และสายตาชื่นชอบกับการกระทำเราก็มีเหมือนกัน
เราไม่ได้ใส่ใจมาก จนค้นพบว่าเราเองเป็นคนปากไว
เพราะอะไรละ
วันนั้นลบกระดานอยู่หน้าห้อง ได้ยินเสียงปิดประตูดังปัง!!
แล้วไงละหลังจากเสียง ปัง อิชั้นก็พูดเสียงดังทันที่ว่า
“ปิดหาพ่ออออออออ มึง เหรอ”
ปรากฎว่าคนที่ปิดคือรุ่นพี่ขาใหญ่ที่สุด โหดสุด เกสุด ผู้หญิงนะแก๊งค์นั้นห้อง ม.3/3
คือทุกคนในมอต้นเกรงขาม
นางเปิดประตูแล้วพูดว่า
“พี่เอง มีปัญหาไรเหรอ”
ส่วนเรา ไม่ตอบไร นางบอกว่าเจอกันด้วยคืนนี้
สรุปนางก็เรียกไปสั่งสอน บ่นๆๆๆๆๆ ก็เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวาไป
เราเคยโดนพี่เรียกไปด่าสองครั้ง มีครั้งนี้
กับอีกครั้งเป็นรุ่นพี่เราหนึ่งปี ตอนนั้นเรา ม.1 นาง ม.2
นางก็ด่าๆๆๆๆๆๆๆ ด่าแบบโอ้ย เยอะ
สุดท้ายนางก็เซอร์ไพรส บอกว่า ล้อเล่น
แค่นั้นอยากให้พวกพี่มาอ่านจัง 555

พอผ่านม.1 ไปเราเป็นพี่ละไง ก็ไม่ค่อยจะไปทำอะไรกับน้องๆหรอก
อย่างที่บอกเรากิจกรรมเยอะ
มอต้นก็มีเพื่อนสนิทอยู่นางหนึ่ง สนิทจนเค้าคิดว่าเป็นเบี้ยน
แรกๆ ที่เข้ามาเรียนเราต้องนั่งโต๊ะรับประทานอาหารโต๊ะละแปดคน
จำไม่ได้ว่าตอนนั้นหมั่นไส้อะไรเพื่อนคนหนึ่ง
เราถือแก้วแล้วเอาน้ำสาดหน้านาง
นางชื่ออุ๋งอิ๋ง 55 จำไม่ได้อ่ะว่าทำทำไม ตอนนี้อุ๋งอิ๋งคงไม่โกรธอะไรแล้วเนอะ อิอิ

เดียวมาต่อจ้าาา

พอมหาวิทยาลัย เรียนไอทีมา ทำหอยอัลไล รู้สึก ไม่ค่อยชอบแหะ
เคยสมัคร AF5 AF7 ไปงั้นแหละ ไม่ได้หรอก ด้วยความเป็นติ่งรายการมั้ง เลยอยากไป ล่าสุดสมัครดีเจ ไป แบ่งให้เพื่อนๆโหวต มันก็ไม่ได้ดีเลิศอะไรหรอก แต่รู้สึกดีใจ ที่เพื่อนพูดว่า (เพื่อนที่เป็นเพื่อนจริงๆที่เค้าไม่เสแสร้งหน่ะ)บอกว่า พูดดีแล้ว ตอนนั้นก็รู้หรอกว่าไม่ได้แล้ว แต่เพื่อนเราชมเราว่าดีแล้วก็พอป่ะ
หลังจากนั้น อีกรายการหนึ่งที่เป็นติ่งมานานแต่ไม่เคยกล้าสมัครเลย เดอะตาร์

อิผึ้งถาม
นผ : มึงจะไปไมคนเยอะแปดแสน
ศรี(ตอนนี้เปลี่ยนฉายาอีกละ) : กูอยากไป
นผ : ไปไมว่ะ ไม่หวังได้ มีเพื่อนไปเหรอ?
ศรี : ไม่!!
นผ : แล้วมึงจะไปมั้ย ?
ศรี : เออ.. กูก็ไม้รู้ว่ะ กูไปนอนด้วยนะ
เสร็จสับหอบผ้าผ่อนไปนอนยัดกับนาง

เฉิดโทมา ..
เฉิด : วันเสาพรุ่งนี้ไปไหน?
อั้ม : ไม่บอก (ชวนคุยเรื่องอื่น)
เฉิด : สรุปพรุ่งนี้ไปไหน ?
อั้ม : เอ้า ยังจำได้อีก
เฉิด : ไปไหน บอกหน่อยย
อั้ม : เอ่อ ไปแกรมมี่ ไปสมัครเดอะสตาร์ ไม่ได้กะหวังได้ไรหรอก อยากรู้อยากเห็น อยากเปิดโอกาสให้ตัวเอง มันก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยป่ะ ไปก็ไม่เสียหาย เค้าก็ไม่ได้เก็บตังนิ เอาหน่ะ สักครั้งในชีวิต
เฉิด : ไปกับใคร
อั้ม : คนเดียวดิ จะลากคนอื่นไปลำบากด้วยทำไม
เฉิด : แม่นับถือ

มั่นใจเหอะเฉิด เธอเลี้ยงชั้นมาดี อิๆ

เท่านี้แหละ

หากมีคนหลงมาอ่านบอกเลยว่า ขอบคุณนะ ทุกเสียงหัวเราะ ไม่ว่าจะชอบใจ หรือเยาะเย้ย

ลงชื่อ

อั้มศรี